ความหรูหราที่ยั่งยืน: แบรนด์ชั้นนำมุ่งมั่นสู่ความยั่งยืนอย่างไร – Vol.2

ดังที่เราได้กล่าวไว้ใน บทความก่อนหน้านี้แบรนด์หรูชั้นนำหลายแห่งกำลังมุ่งสู่โมเดลธุรกิจที่ยั่งยืนมากขึ้น สำหรับผู้บริโภคยุคใหม่ ความยั่งยืนเป็นปัจจัยสำคัญที่ขับเคลื่อนการตัดสินใจซื้อของพวกเขา สิ่งนี้ไม่เพียงสะท้อนถึงการเลือกของพวกเขา แต่ยังรวมถึงการกระทำและนิสัยของพวกเขาด้วย 

ผู้บริโภคหันมาใช้แนวทางเศรษฐกิจหมุนเวียนมากขึ้นเรื่อยๆ เช่น การใช้ซ้ำและการซื้อของมือสอง แนวคิดเหล่านี้เป็นศูนย์กลางของปรัชญาและรูปแบบธุรกิจของนันโบยะ เราเข้าใจดีว่าสินค้าฟุ่มเฟือยมีวงจรชีวิตที่ยาวนาน และขึ้นอยู่กับเราที่จะตรวจสอบให้แน่ใจว่าสินค้านั้นถูกเติมเต็ม ซึ่งหมายถึงการซื้อของที่ถูกใจและหาบ้านใหม่ให้กับพวกเขา ที่ซึ่งพวกเขาสามารถสร้างความทรงจำอันล้ำค่าได้ต่อไป การมีส่วนร่วมกับแนวทางปฏิบัติเหล่านี้จะทำให้คุณเพลิดเพลินไปกับความหรูหราอย่างยั่งยืนมากขึ้น

ในบทความนี้ เราจะดำเนินการสำรวจแนวทางปฏิบัติเพื่อความยั่งยืนของแบรนด์หรูที่ Nanboya ทำการค้าต่อไป เช่น Gucci, Yves Saint Laurent, Omega และ Cartier

Gucci

The Italian fashion powerhouse is deeply committed to sustainability. As part of the Kering group, in 2017, they presented a 10-year plan to reduce their impact, and they have been following through. They have banned animal fur from all of their collections since 2018, and they guarantee the traceability of more than 95% of their raw materials.

พวกเขายังได้กำหนดเป้าหมายตามหลักวิทยาศาสตร์เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและนโยบายเพื่อป้องกันการตัดไม้ทำลายป่าของป่าพื้นเมืองและป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ในห่วงโซ่อุปทานของพวกเขา 

โอเมก้า

Omega ให้ความสำคัญกับความยั่งยืนอย่างจริงจังและดำเนินการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในการสร้างนาฬิกา ในปี 2018 พวกเขาเปิดโรงงานล้ำสมัยในสวีเดน ซึ่งได้รับการออกแบบมาให้มีประสิทธิภาพและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากที่สุด หลังคาของอาคารมีแผงโซลาร์เซลล์พลังงานแสงอาทิตย์จำนวน 561 แผงที่ผลิตพลังงานสะอาดเพื่อจ่ายให้กับโรงงาน นอกจากนี้ยังมีระบบควบคุมสภาพอากาศในร่มที่ประหยัดพลังงานอีกด้วย วัสดุหลักของอาคารมีต้นกำเนิดที่ยั่งยืน เช่น ต้นสนสวิสในท้องถิ่น

อีฟ แซงต์ โลรองต์

The French fashion house is also part of the Kering group, and it shares several sustainability policies. Following the group’s traceability focus on raw materials, they have developed two innovative projects around this topic. They trace all of their South African leather from farms to finished goods using laser technology. As for Mohair, they use blockchain to trace it back to its origin through a unique product fingerprint.

Like Gucci, they are also taking action to reduce their greenhouse emissions and protect endangered forests.

คาร์เทียร์

The jewellery giant has been committed to sustainability for a long time now: they have been climate-neutral since 2009, and they continue working to reduce their CO2 footprint. Also, they have an annual gold consumption of only 10 tons, and more than 90% is recycled. All of the diamonds they use in their jewellery have a conflict-free guarantee and comply with the Code of Conduct for Responsible Jewellery Practices.

เป็นแรงบันดาลใจให้ความหวังที่ดีที่จะได้เห็นแบรนด์หรูชั้นนำทั่วโลกให้คำมั่นในแนวทางปฏิบัติที่ยั่งยืนมากขึ้นเรื่อยๆ สำหรับเรา ความยั่งยืนเป็นส่วนหนึ่งของ DNA ของเราและเป็นศูนย์กลางของวิธีการทำสิ่งต่างๆ เราหวังว่าจะสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้คนยอมรับความยั่งยืนและนำกลับมาใช้ใหม่เป็นวิถีชีวิต

Close Bitnami banner
Bitnami